“ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย มวยหนุ่มหน้ามน วัย 25 ปี จากชลบุรี เจ้าของแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145 – 155 ป.) เตรียมกลับมาป้องกันเข็มขัดเป็นครั้งที่ 3 โดยจะพบกับคู่ปรับเก่า “Smokin’ Jo” โจ ณัฐวุฒิ นักชกอินดี้วัย 34 ปี จากนครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้ท้าชิงอันดับ 3 ของแรงกิง
การดวลครั้งนี้จะเป็นคู่เอกในศึก ONE 167: ตะวันฉาย vs โจ II ที่จะถ่ายทอดสดจากอิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในช่วงไพรม์ไทม์ของอเมริกา ตรงกับเวลา 07.00 น. ของเช้าวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.นี้
เจ้าของฉายา “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย ก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ของ ONE อย่างเต็มตัว ด้วยสไตล์การชกอันดุดันและหัวใจมุ่งมั่นเกินร้อย เขาสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการเก็บชัยชนะถึง 8 จาก 9 ไฟต์ โดยในไฟต์ล่าสุดโชว์ฝีมือเบียดชนะ “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” ดาวบู๊รุ่นพี่ ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ป้องกันเข็มขัดครั้งที่ 2 ได้สำเร็จ ในศึก ONE ลุมพินี 46 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
สำหรับ “ตะวันฉาย” เคยปะทะฝีมือภาคแรกกับ “โจ” มาแล้วในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ในศึก ONE Fight Night 15 เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 ผลปรากฏว่า “ตะวันฉาย” เดินลุยเปิดหน้าแลกอาวุธสู้กับ “โจ” ที่รับบทแทน “ซุปเปอร์บอน” ได้อย่างดุเดือด ก่อนสุดท้ายจะเป็น “ตะวันฉาย” ที่ชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ การรีแมตช์ครั้งนี้ในกติกามวยไทย จึงน่าสนใจว่าผลจะออกมาเหมือนหรือต่างไปจากเดิมกันแน่
“ตะวันฉาย” ยอมรับว่าการเจอกันในภาคแรกไม่ใช่งานง่ายอย่างที่คิด แม้ “โจ” จะมีเวลาเตรียมตัวเพียง 3 วัน แต่เขาก็เตรียมแผนมาสู้ได้เป็นอย่างดี ทำให้การฟาดฟันบนสังเวียนตลอดทั้ง 3 ยกเป็นไปอย่างดุเดือด และสร้างความประทับใจให้กับแฟนมวยทั่วโลก
“รูปเกมบนเวทีแสดงให้เห็นว่า พี่โจ ถนัดสู้ในกติกาคิกบ็อกซิ่งมาก ทำให้การต่อสู้ออกมาค่อนข้างสูสี ผมค่อนข้างตกใจเล็กน้อยว่าเขามาสู้กับเราได้ดีมากขนาดนี้ งานหนักของผมคือเวลาปล่อยอาวุธอะไรไปเขาพร้อมโต้กลับมาได้ตลอด เขาทนได้ดีและอาวุธหนักใช้ได้เลย การเอาชนะน็อกคู่ต่อสู้ในกติกาคิกบ็อกซิ่งถือว่ายากกว่าการเอาชนะน็อกในมวยไทย เพราะว่าใช้ศอกไม่ได้ นวมที่ใช้ก็ใหญ่กว่า ทำให้ผมเอาชนะน็อกคู่ต่อสู้ได้ค่อนข้างยากครับ”
สถานการณ์โดยรวมจากการเจอกันครั้งแรกที่โดนใจผู้ชมจำนวนมาก ทำให้ “ตะวันฉาย” ไม่แปลกใจมากนักที่จะต้องโคจรมาเจอกับ “โจ” อีกครั้ง โดยการกลับมารอบนี้เจ้าตัวมั่นใจว่าตัวเองมีความสมบูรณ์มากกว่าเดิม และพร้อมตัดสินผลชี้ขาดให้รู้เรื่องกันไป
“ผมทราบมาก่อนสักพักหนึ่งแล้วว่าต้องเจอกับพี่โจอีกครั้ง แต่สุดท้ายไม่ว่าผมจะต้องเจอกับใคร ผมก็เตรียมตัวเต็มที่เสมอ ผมรู้สึกดีตอนที่รู้ว่าจะได้ป้องกันแชมป์โลกมวยไทยกับพี่โจ เพราะจะได้ลบคำสบประมาทจากแฟนมวย ที่ไฟต์ก่อนผมชกคิกบ็อกซิ่งแล้วโดนวิจารณ์ไม่น้อย พี่โจบอกว่าซ้อมแค่ 3 วันแล้วชกกับผมได้ขนาดนี้ ไฟต์นี้ผมให้เวลาซ้อม 3 เดือนเลยครับ”
การกลับมาเจอกันภาคสองระหว่าง “ตะวันฉาย” และ “โจ” เตรียมปะทุความเดือดเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ เมื่อศึกนี้มีเข็มขัดมวยไทยเป็นเดิมพัน “ตะวันฉาย” จึงพร้อมนำประสบการณ์จากการเจอกันครั้งแรกมาถอดบทเรียนและรับมืออาวุธของอีกฝ่ายด้วยความรัดกุม เพื่อรักษาบัลลังก์แชมป์โลกที่เขาหวงแหนยิ่งชีวิต
“ผมคิดว่าเหตุผลที่พี่โจได้มาท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลกจากผมในไฟต์นี้ เพราะเขากำลังมีกระแสที่ดีมาก รวมถึงมีอันดับติดอยู่ในแรงกิงด้วย จากไฟต์แรกที่พบกัน ผมได้เรียนรู้ว่าห้ามประมาทเด็ดขาด อาวุธที่อันตรายที่สุดของพี่โจคือหมัด ซึ่งทั้งหนักและออกรัวเป็นชุดได้ดี แต่ผมได้เตรียมแผนรับมือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว”
“การสู้กันระหว่างกติกามวยไทยกับคิกบ็อกซิ่งต่างกันแน่นอน มวยไทยคือทางของผม ไฟต์นี้ผมขอบ้าง ผมได้เข็มขัดแชมป์โลกมาครองแล้ว ใครก็แตะไม่ได้ ถ้าอยากได้ก็ยากหน่อย เพราะเข็มขัดเส้นนี้ผมหวงครับ”
ภารกิจป้องกันแชมป์โลกมีความสำคัญอย่างมากสำหรับ “ตะวันฉาย” ทำให้เขายังคงทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างเต็มที่เหมือนเดิม โดยหวังให้มีโอกาสดีบนเวทีเพื่อลุ้นปิดเกมเร็วเหนือ “โจ” และทำให้ไฟต์นี้สนุกสมการรอคอยของแฟนมวยทุกคน
“ไฟต์นี้ผมเก็บตัวฟิตซ้อมมาเกือบ 2 เดือน โดยมีพี่หวังเป็นโค้ชประจำ ส่วน อ.ปุ๋ย คอยติวเข้มเรื่องหมัด และมีเพื่อน ๆ หลายคนแวะเวียนมาช่วยจับคู่ซ้อมให้ การฝึกในแต่ละวันไม่เหมือนกัน บางช่วงก็หนักมาก บางช่วงก็มีหนักสลับเบา อย่างบางอาทิตย์ผมซ้อมหนัก 6 วันติดกัน เล่นเอาเกือบตายเหมือนกันครับ”
“ทุกครั้งที่ขึ้นไปสู้บนเวทีผมอยากได้โบนัส ใคร ๆ ก็ต่างอยากเอาชนะน็อกคู่ต่อสู้ด้วยกันทั้งนั้น แต่ต้องดูจังหวะบนเวทีกันอีกครั้ง แต่ดูแล้วไฟต์นี้ไม่น่าชนะกันได้ง่าย ๆ ผมมองว่าเกมอาจจะจบด้วยการตัดสินคะแนน ถ้าบอกว่าน็อกเดี๋ยวจะดูพูดเกินจริงมากไป อยากให้ทุกคนรอดูการต่อสู้น่าตื่นเต้นบนเวทีดีกว่าครับ”
ติดตาม “ตะวันฉาย vs โจ” ศึก ONE 167: ตะวันฉาย vs โจ II ถ่ายทอดสดจากอิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี วันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.67 จองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง ยอดมวยไทย คู่แรกเริ่มเวลา 07.00 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้